ป้องการการคลุมดำที่ข้อความ ss Product Information ผลิตภัณฑ์เอมสตาร์: น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว V.2.4

Wednesday, September 1, 2010

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว V.2.4

น้ำมันรำข้าวจมูกข้าวสกัดจากธรรมชาติ ไร้สารเจือปน

 ต้านมะเร็ง อัมพฤกษ์-อัมพาต
 โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิต
 มีบุตรยาก เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ มดลูกแข็งแรง-กระชับ
 คอเลสเตอรอล เส้นเลือดตีบ
 อัลไซเมอร์ ความจำเสื่อม
 พาร์กินสัน ธาลัสซีเมีย
 ฟื้นฟูสุขภาพ ชะลอความชรา
 บำรุงสมอง บำรุงร่างกาย
 ลดน้ำหนัก ได้ 10-15 กก. ภายใน 3 เดือน ทำให้คุณมีรูปร่างเพรียวสมส่วน
 ลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด
 ลดอาการปวดหลัง
 ลดระดับ LDL คอเลสเตอรอล ซึ่งก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย
 เพิ่มระดับ HDL คอเลสเตอรอล ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย
 ความดันโลหิตลดลง และลดระดับน้ำตาลในเลือด
 บำรุงสมอง ป้องกันภาวะเสื่อมของสมองและความจำ
 ช่วยให้ผิวหนังสดใส
 ช่วยอาการผิดปกติของชาย, หญิง วัยเจริญพันธุ์ และวัยทอง
 ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่าง ๆ และป้องกันการเกิดมะเร็ง
 ลบเลือนริ้วรอยด่างดำ เหี่ยวย่น ฝ้า และ กระ
 ลดภาวะท้องผูก ลดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงทวารและมะเร็งลำไส้ใหญ่
 ช่วยให้นอนหลับสบาย

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
เป็นน้ำมันที่ได้จากกระบวนการพิเศษในการสกัดเอาสารสำคัญที่มีประโยชน์นานาชนิด ซึ่งมีอยู่ในเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว (Seed Membrane Layer) และจมูกข้าว (Rice Germ) จึงอุดมด้วยสารสำคัญทางธรรมชาติ และมีคุณค่าสูงต่อร่างกายหลายชนิด เช่น
กลุ่มสารฟอสโฟไลฟิด (Phospholipids) เช่น เลซิติน (Lecithin) เซฟฟาลิน (Cephalin) ไลโซเลซิติน (Lysolecithin) ซึ่งมีความสำคัญในการนำไปสร้าง และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์ประสาทสมอง และช่วยป้องกันเซลล์ประสาท จากสารที่เป็นพิษและอนุมูลอิสระต่างๆ ช่วยลดความเครียด และช่วยเสริมสร้างในด้านความจำ
กลุ่มเซราไมด์ (Ceramide) ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของชั้นใต้ผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น การเสริมสร้างเซราไมด์ให้เพียงพอ ทั้งโดยการรับประทานหรือการให้ทางผิวหนังในรูปการทาครีม หรือโลชัน จะช่วยรักษาผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง ปราศจากริ้วรอยย่นก่อนเวลาอันควร นอกจากนี้เซราไมด์ยังมีคุณสมบัติเป็นไวท์เทนเนอร์ (Whitener) ซึ่งสามารถยับยั้งการสังเคราะห์เมลานิน อันเป็นสาเหตุให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนผิวพรรณได้ดี และยังเป็นมอยเจอไรเซอร์ (Moisturizer) ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวอีกด้วย
กลุ่มคอลโทคอล (Tocols) วิตามินอีธรรมชาติ ในรูปของโทโคเฟอรอล(Tocopherol) และโทโคไทรอีนอล (Tocotrienol) มีประโยชน์ต่อร่างกายในการสร้าง และซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ของร่างกายและยังช่วยทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็ง
• กลุ่มกรดไขมันไลโนเลอิค (Linoleic Acid) หรือโอเมก้า 6 และกรดไลโนเลอิค (Linoleic Acid) หรือโอเมก้า 3 ที่เป็นกรดไขมันจำเป็น โดยมีอยู่ประมาณ33%
กลุ่มวิตามิน B - Complex ซึ่งช่วยให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น
กลุ่มแกมมา - ออไรซานอล มีฤทธิ์ในการลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ทำให้ลดการตีบตันของหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และยังมีฤทธิ์ในการลดความเครียด และรักษาอาการผิดปกติของสตรีวัยทอง นอกจากนี้ยังเป็นสารอนุมูลอิสระ และยังป้องกันแสงยูวีได้ เมื่อใช้กินหรือใช้ทา ทำให้ผิวหนังชุ่มชื่นและต้านการอักเสบ สารชนิดนี้มีความปลอดภัยสูงมาก
มหัศจรรย์จากธรรมชาติ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
จากผลการศึกษาวิจัยและการประกาศรับรองจากสถาบันต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในผลิตภัณฑ์น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริงเลยนะคะ เหมาะสำหรับเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆให้แก่ผู้ที่เรารัก เช่น คุณพ่อ, คุณแม่ หรือแม้แต่ตัวเราเองค่ะ เพราะเป็นน้ำมันที่อุดมด้วยประโยชน์มากมาย ประกอบไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ร่างกายมนุษย์ต้องการ ดังนี้
1.สาร Gamma Oryzanol ที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต โดยลดปริมาณคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในตับและเลือดเป็นผลให้ความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดลดลง รวมทั้งช่วยลดการอุดตันของหลอดเลือดในสมอง หัวใจ ไต และต่อมลูกหมาก มีผลป้องกันไม่ให้อ้วนขึ้น
2. กลุ่มโทคอล ซึ่งอยู่ในรูปของ โทโคเฟอรอล และโทโคไทรนีนอล ซึ่งอยู่ในวิตามินอี มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ต่างๆของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น เช่น เซลล์ผิว เซลล์เม็ดเลือดและเซลล์สมองในร่างกายมนุษย์ให้แข็งแรงขึ้นและชลอความชราก่อนวัย โดยเป็นสารที่ต้านอนุมูลอิสระเช่นเดียวกัน
3.Phospholipid กรุ๊ป ซึ่งประกอบด้วยสารเลซิติน Lyssolecithin Cephalin ซึ่งช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆของประสาทและระบบสมองให้มีความจำดีขึ้น
4.Essential Fatty Acid ซึ่งประกอบด้วยโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยฟื้นฟูเซลลืสมองได้ดีขึ้น ส่วนโอเมก้า 3 เป็นสารสำคัญที่ฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังให้แข็งแรงขึ้น โดยไปช่วยสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนังให้ผิวหนังแข็งแรงและสวยงามเปล่งปลั่งขึ้นโดยธรรมชาติ
5. Ceramide (เซราไมด์) จะทำให้ผิวพรรณสวยงามเปล่งปลั่งเช่นกัน ซึ่งปกติจะพบมากในเด็กและจะเห็นว่าผิวพรรณดี อย่างไรก็ตามเมื่อโตขึ้นสารนี้จะเริ่มน้อยลง แต่จะมีมากในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมาทดแทน
6.อยู่ในรูปแบบวิตามิน B-Complex ซึ่งประกอบด้วยสารเมลาโทนิน ที่ช่วยในการนอนหลับได้เป็นอย่างดี และแคลเซียมก็ช่วยซ่อมแซมเซลลืที่สำคัญๆได้อย่างดี เช่น เซลล์ของเส้นผมและเล็บ ให้แข็งแรงและงอกงามขึ้นด้วยเช่นกันซึ่งสารสำคัญที่มีอยู่มากมายนั้นจะถูกทำลายโดยกรรมวิธีในการสกัดน้ำมันค่ะ อย่างเช่น ในน้ำมันรำข้าวแบบขวดสำหรับปรุงอาหาร ซึ่งเป็นน้ำมันรำข้าวผ่านกรรมวิธี และยิ่งต้องผ่านความร้อนจากการปรุงอาหารด้วยแล้ว สารอาหารก็จะยิ่งลดลงมากค่ะดังนั้นหากจะคงคุณค่าต่างๆเหล่านี้ไว้ต้องเป็นน้ำมันที่สกัดด้วยวิธีการพิเศษ จึงทำให้สารที่มีความสำคัญต่างๆยังอยู่ และนอกจากนี้ สารสำคัญหลายตัวนั้น ยังเป็นสารที่พบได้ใน "ข้าวไทยเท่านั้น" อีกด้วยค่ะ
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดย รศ.ดร. สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ คณะบดีคณะแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และ 1 ใน 12 ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรของสหประชาชาติ ผู้วิจัยน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวจนโด่งดังขายดีมากใน U.S.A. และยุโรป โดยสรุปน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวดูแลสุขภาพ 4 เรื่อง ดังนี้
1. เรื่องเกี่ยวกับสมอง ช่วยลดอาการเครียด ปวดหัว ไมเกรน นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม เสริมสร้างเซลล์สอง โดยรับประทานวันละ 4 แคปซูล (เช้า 2 แคปซูล,เย็น 2 แคปซูล) หลังอาหาร ภายใน 1-2 วันจะเห็นผลชัดเจนในเรื่องของความเครียด นอนไม่หลับ
*หากใครทาน 4 แคปซูลต่อวันแล้วมีอาการมืนงง ให้ลดเหลือ 2 แคปซูล เนื่องจากคนๆนั้นตอบสนองต่อน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวดีมากจนเส้นเลือดในสมองขยายตัวมากเกินไป จนเลือดไปเลี้ยงสมองมากเกินไป (แต่จำนวนน้อยมากๆที่มีอาการเช่นนี้)
2. โรคเสื่อม เช่น ไขมันในเส้นเลือด ความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ เก๊า อัมพฤต มือเท้าชา อาการวัยทอง ให้ทานวันละ 4 แคปซูล (เช้า 2 แคปซูล, เย็น 2 แคปซูล) หลังอาหารใน 7 วันแรก หากยังไม่เห็นผล ให้เพิ่มเป็น 6 แคปซูลต่อวัน (เช้า,กลางวัน,เย็น)โรคมะเร็งขั้นที่ 1-2 รับประทานเป็น 9 แคปซูลในสัปดาห์ที่ 2
3. โรคอักเสบ เกี่ยวกับข้ออักเสบ ผิวหนังอักเสบ อื่นๆ รับประทานวันละ 4 แคปซูล (เช้า 2 แคปซูล, เย็น 2 แคปซูล) หลังอาหารใน 7 วันแรก หากยังไม่เห็นผล ให้เพิ่มเป็น 6 แคปซูลต่อวัน (เช้า,กลางวัน,เย็น)
4. การต้านอนุมูลอิสระ จะมีความสามารถต้านอนุมูลอิสระดีกว่าพวกน้ำมันตับปลาถึง 60 เท่า ทำให้อาการที่เกิดจากอนุมูลอิสระไปทำลายจนโรคเสื่อมเกิดน้อยลง เช่น หากอนุมูลอิสระไปทำลายเซลล์ตับอ่อน ทำให้การสร้างอินซูลินบกพร่อง จึงเกิดเบาหวาน หากไปทำลายผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดรอยแผลที่ผิวหลอดเลือด ทำให้ไขมันไปเกาะง่าย จึงเกิดไขมันอุดตัน

No comments:

Post a Comment

About Blog

Blog นี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็น "คลังข้อมูล" แก่กลุ่มสายงานเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด ท่านผู้ใดสนใจร่วมธุรกิจ หรือ ต้องการ dowload ข้อมูล กรุณาติดต่อผ่าน Email: cherrypowergroup@gmail.com